เรื่องนี้ส่งมาจากคุณเมครับ คุณเมเล่าว่า.. ออกตัวไว้ก่อนว่าเราเป็นคนไม่กลัวผี ไม่เชื่อเรื่องผี และไม่เคยเจอผีในชีวิตเลย เพราะคิดว่ามันไม่มีจริง จนมาเจอเหตุการณ์นี้ ซึ่งเราก็อธิบายไม่ได้ค่ะ คือเมื่อราว 3 อาทิตย์ก่อน ลูกสาวคนโตของเราป่วยต้องแอทมิทเข้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง รักษาตัวที่โรงพยาบาล 5 วัน ทุกอย่างก็ปกติมาโดยตลอด จนคืนก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาล คืนนั้นระหว่างที่เรากำลังสะลึมสะลือ ครึ่งหลับครึ่งตื่น ก็ฝันว่าตัวเองเดินไปที่ประตูห้อง และเปิดม่านเล็กๆ ตรงประตู (ที่ประตูห้องจะมีม่านเล็กๆ ไว้ส่องดูข้างนอกได้) พอเราส่องออกไป ก็เห็นคนมามุงหน้าห้องเราเยอะแยะไปหมด ทั้งหญิง ชาย ชะโงกหน้ากันเข้ามาจ้องเรา เราตกใจมากจนสะดุ้งตื่น คือมันเหมือนอาการผีอำ กึ่งหลับ กึ่งฝันค่ะ เรามองนาฬิกาเป็นเวลาตี 2 พอดี จังหวะเดียวกันกับลูกสาวเราที่นอนอยู่ ก็ลุกขึ้นยืน โดยที่ตาปิดอยู่ แต่ทำปากขมุบขมิบๆ เราถาม ‘ทำอะไรลูก!?’ แต่ลูกก็ไม่ตอบ ทำปากขมุบขมิบๆ ไม่ลืมตาอยู่อย่างนั้น เราตกใจรีบไปตามพยาบาลมา พอกลับมา ลูกเรานั่งอยู่ในท่าคุกเข่า สรุปก็คือละเมอ ก็จบไป.. เราเอาไปเล่าให้สามีฟัง ก็บอกตลกดี บังเอิญ สามีบอกมันเป็นภาวะการทำงานของสมอง บอกว่าเราเหนื่อยมากๆ เครียดมากๆ ก็เลยเป็นแบบนี้..

วันนั้นก็ออกจากโรงพยาบาลมา แต่พอกลับมาถึงบ้าน ปรากฏว่าลูกสาวคนเล็กตัวร้อนจัด ไข้ขึ้น 40 องศา เลยต้องพาลูกคนเล็กกลับไปเข้าโรงพยาบาลเดิมทันทีหลังจากที่ลูกคนโตเพิ่งออก เข้าแอทมิทตอน 3 ทุ่ม มีไข้สูง ร้องโยเยตลอดเวลา วางไม่ได้ จะต้องอุ้มไว้ตลอด พอได้เข้าห้องพัก (คนละห้องกับที่ลูกสาวคนโตอยู่) คืนนั้นเราอยู่กับพี่ชายเราค่ะ ช่วยกันดูน้อง ส่วนสามีดูลูกคนโตอยู่บ้าน.. ตอนเข้าห้องไป เราได้กลิ่นเหม็นๆ ติดที่มือ กลิ่นเหมือนยางลบไหม้ ก็พยายามล้างมือ ทาครีม คือล้างหลายรอบมาก หงุดหงิดในใจว่ากลิ่นอะไรเหม็นจัง แล้วก็เหนื่อยกับลูกมากๆ เพราะวางลูกไม่ได้เลย พยาบาลก็จะคอยพาลูกไปเช็ดตัวทุกๆ 2 ชั่วโมง จนตอนประมาณตี 1 กว่าๆ พี่ชายเราก็บอกว่า ‘เดี๋ยวขอนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องรีบไปทำงานแต่เช้า’ เราก็โอเค บอกให้พี่ชายนอนเลย พี่ชายเรานอนที่โซฟาในห้องนั่นล่ะค่ะ

สักพักพยาบาลก็มา พาน้องไปเช็ดตัว (ต้องพาไปเช็ดตัวอีกห้องหนึ่ง) เราก็เดินตามไปโดยทิ้งพี่ชายเราไว้ในห้อง พอเราไปดูพยาบาลเช็ดกับลูกกลับมา โดยเราเป็นคนอุ้มกลับ เพราะลูกเราร้องไห้ตลอด ไม่ให้วาง เอามือปัดๆ ร้องๆ ตลอด เราก็อุ้มไว้อยู่ในห้อง พยายามปิดไฟ ให้มืดเพื่อที่ลูกจะได้นอน แต่ลูกเราก็ยังคงร้องอยู่แบบนั้น.. สักพักไม่นาน พี่ชายเราที่นอนอยู่ ก็ละเมอขึ้นมา เราก็ไม่ได้สนใจ แต่เค้าพูดยาวมาก ตอนแรกฟังๆ เหมือนร้องไห้ และพูดอะไรพึมพำไม่รู้เรื่อง แต่พอฟังดีๆ มันเป็นเสียงผู้หญิงแก่!! พูดอารมณ์แบบสนุกสนานชอบใจ แต่เป็นเสียงคนแก่นะ แก่มาก ยานคางเลยล่ะ สาบานเลยว่าได้ยินแบบนี้จริงๆ และแปลกมาก เกิดมาในชีวิตไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน เรากลัวมากเลยตะโกนเรียกพี่เรา จนพี่เราลุกขึ้นมา เราก็ถามว่า ‘พูดอะไรอะ?’ พี่เราถามกลับ ‘ได้ยินว่าอะไรล่ะ?’ เราก็เล่าสิ่งที่ได้ยินให้พี่เราฟัง สรุปพี่เราบอกว่าเค้าไม่ได้พูดอะไร.. เท่านั้นล่ะ ต่างคนต่างเงียบมองหน้ากัน ตอนนั้นเวลาตี 2 กว่าๆ พี่เราทำหน้าอึกอักเหมือนอยากจะบอกอะไร เรารีบบอกพี่เลยว่า ‘อย่าเพิ่งเล่านะ รอเช้าก่อน..’

จนตอนเช้าพี่ชายเราออกไปทำงาน ส่วนเราติดต่อพยาบาลทำเรื่องขอย้ายห้อง พยาบาลมาถามเราว่าทำไมถึงจะย้าย เราก็ตอบว่าอยากได้ห้องที่ใหญ่กว่านี้ แล้วมีพยาบาลอีกคนถามมาว่า ‘คุณแม่ก็เจอเหรอคะ!?’ ทีนี้เราเลยเล่าให้เค้าฟัง และถามเค้าว่าห้องนี้มีอะไร? แต่เราบอกเค้าว่า อย่าเพิ่งเล่านะ ขอให้ได้ห้องใหม่ก่อน.. พอทำเรื่องเปลี่ยนห้องได้ และย้ายไปห้องใหม่ เราเลยรีบโทรไปถามพี่ชายว่า ‘เมื่อคืนเจออะไร?’ (พี่ชายเราทำงานเป็นบุคลากรของโรงพยาบาล ทำงานมาหลายปีไม่เคยเจอ และไม่เชื่อเรื่องผีเหมือนกัน) พี่ชายเราเล่าว่า พอล้มตัวลงนอน ยังไม่ทันหลับ รับรู้ตลอดที่เราเดินออกไปกับพยาบาลที่พาลูกไปเช็ดตัว ตอนที่เราออกไป ไฟในห้องมันตก กระพริบๆ ติดๆดับๆ สักพัก พอเราเดินกลับเข้ามาในห้อง พี่เราเล่าถูกหมดเลย เราเป็นคนอุ้มลูก พยาบาลเดินตาม เดินกันเข้ามา ..แต่สิ่งที่พี่เราเห็นคือ มีหน้าคนแก่ๆ ตามมาข้างๆ ลูกเราด้วย! กำลังหลอก แบบแกล้งหยอกเด็ก อะไรแบบนั้น ลูกเราก็ร้องไห้เอามือปัดไปมา ตอนนั้นพี่เราขนลุก ชาวูบไปตั้งแต่ท้ายท้อย แต่ไม่ได้หลับ รับรู้หมด เห็นหมด แต่ขยับไม่ได้ เหมือนคนโดนบล็อกหลังผ่าตัดอะไรแบบนั้น พี่ชายเราพยายามตะโกนออกมาสุดเสียงว่า ‘ออกไป! อย่ามายุ่งกับเด็ก’ แต่ตะโกนเท่าไหร่ ก็ไม่มีเสียงออกมาเลย.. ซึ่งทั้งหมดมันคือช่วงเวลาเดียวกันกับที่เราได้ยินเสียงผู้หญิงแก่ พอเราตะโกนเรียกพี่ชายเรา พี่เราถึงหลุดมาได้

และนี่เป็นเหตุการณ์ที่แปลกมากสำหรับเรา พี่ชายเราอยู่ในภาวะที่รู้สึกตัวดี ไม่ได้ใช้ยา ไม่ได้เจ็บป่วย ไม่ได้มีประวัติทางจิตเวชใดๆ แล้วเราก็ได้กลับไปถามพยาบาล ซึ่งพยาบาลบอกว่า ‘ที่ห้องนั้น ก่อนหน้ามีแม่ลูกเข้ามาแอทมิทตอนบ่าย แล้วก็มาขอย้ายห้องออกกลางดึกเลย บอกว่ามีอะไรมากวนจนอยู่ไม่ได้.. ส่วนอีกเคส เคยเห็นเป็นผู้หญิงแก่มานั่งมองอยู่ปลายเตียง!’ ซึ่งทุกอย่างตรงกับที่พี่ชายเราเห็นว่าเป็นผู้หญิงแก่ และเสียงที่เราได้ยินเป็นเสียงผู้หญิงแก่..’ และตั้งแต่ย้ายไปห้องใหม่ กลิ่นเหม็นเหมือนยางไหม้ติดมือเราก็หายไปเลยค่ะ และก็ปกติดี ไม่มีเหตุการณ์แปลกๆ อีกเลย.. เรื่องที่เจอก็มีแค่นี้ค่ะ แต่ขอยืนยันว่าทุกเรื่องที่เล่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ

Story by คุณเม

ความคิดเห็น