เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นๆ ที่ส่งเข้ามาจากคุณมานิตย์ครับ คุณมานิตย์เล่าว่า.. เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์แรก และเหตุการณ์เดียวที่เกิดขึ้นจริงกับตัวผมเองครับ บ้านผมอยู่อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ทำธุรกิจส่วนตัวที่บ้านกับพ่อผม ส่วนแม่จะออกไปทำงานที่อำเภอมะขาม ระยะทางห่างจากบ้านประมาณ 60 กิโลเมตร ทุกๆ วันเสาร์ ผมจะต้องออกไปรับแม่กลับมาบ้านมาที่อำเภอขลุงครับ

มีอยู่วันหนึ่ง เป็นวันที่แม่ผมเลิกงานมืด กว่าจะเริ่มออกเดินทางก็ทุ่มกว่าๆ ถนนหนทางเป็นทางหลวง 4 เลนขับสบายๆ ระหว่างทางผมก็คุยกับแม่ตามปกติ พอมาถึงช่วงหนึ่งที่ 2 ข้างทางมีต้นกบกใหญ่ บ้านคนแต่ละหลังอยู่ค่อนข้างห่างกัน ผมขับรถชิดขวาตลอดเพราะถนนโล่ง ทันใดนั้นเอง แสงไฟหน้ารถผมก็สาดไปเจอคน น่าจะกำลังยืนอยู่ตรงเกาะกลางถนน ลักษณะคือคลุมผ้าห่ม (ผ้านวมสีขาวมอๆ) คลุมตั้งแต่หัวจนถึงข้อเท้า รองเท้าไม่ใส่ แล้วเอามือรวบจับผ้าห่มบริเวณคอไว้ เขายืนนิ่งๆ เหมือนรอข้ามถนน ในใจผมก็คิดว่าคงเป็นชาวบ้านแถวนั้นแหละ.. พอรถผมวิ่งจนเกือบจะถึงคนคนนั้น อยู่ๆ เขาก็วิ่งออกมากลางถนน ตอนนั้นผมเหยียบเบรคเต็มที่ พร้อมกับบีบแตรค้าง คิดว่าคงชนแน่ๆ เพราะมันกระชั้นชิดมาก แถมผมขับมาเร็วด้วย

แต่ว่า มันกลับว่างเปล่าครับ ผมผ่านไปเฉยๆ ไม่ชนอะไรทั้งนั้น!? พอรถหยุดสนิท แม่ผมตกใจร้องเสียงหลงเลย ถามผมว่า ‘มีอะไร! เหยียบเบรคทำไม?’ ผมนี่ใจเต้นตูมตามเลยครับตอนนั้น มองกระจกหลังดูว่าผมชนเขาไหม? แต่สิ่งที่ผมเห็นคือ เขาคนนั้นยังยืนอยู่กลางถนนครับ แต่ผ้าห่มนั้นกองอยู่ที่พื้น เผยให้เห็นร่างที่ชุ่มเลือดแหลกเละไปหมด แถมยังหันมามองตามหลังรถผมอีกด้วย! เท่านั้นแหละครับ ผมรีบบึ่งออกจากตรงนั้นอย่างไวเลย นั่งเงียบมาจนถึงบ้าน แล้วค่อยมาเล่าให้แม่ฟังว่าผมเห็นอะไร.. พอแม่ได้ฟัง แม่ก็บอกผมว่า ‘ตรงบริเวณนั้นน่ะ เคยมีคนสติไม่ดีถูกรถชนตายตอนกลางคืน แถมถูกรถที่ผ่านไปมาเหยียบซ้ำแล้วซ้ำอีก กว่าชาวบ้านแถวนั้นจะเจอศพก็เช้าแล้วถึงได้เอาผ้าห่มมาคลุมไว้..’ ผมได้ฟังนี่หลอนเลยครับ แต่ก็แปลกที่ทำไมแม่ผมถึงไม่เห็นเหมือนผม แล้วถ้าหากผมเลือกที่จะหักรถหลบ รถผมอาจจะเสียหลักคว่ำไปแล้วก็ได้.. และนี่คือประสบการณ์จริงที่ผมได้เจอมาครับ

Story by คุณมานิตย์

ความคิดเห็น