เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณเต้ครับ คุณเต้เล่าว่า.. บ้านผมเป็นหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี มีทางรถไฟผ่านกลางหมู่บ้านเลย หมู่บ้านข้างๆ ก็เช่นกัน และเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ มันเกิดขึ้นที่หมู่บ้านข้างๆ ครับ.. คือครอบครัวหนึ่ง มีตา ยาย และหลานชาย อายุประมาณสัก 5-6 ขวบ ทุกๆ วัน ตาจะขี่รถพาหลานชายไปส่งไว้ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของ อบต. แล้วตอนเย็นก็ไปรับกลับบ้านตามปกติ โดยจะต้องผ่านทางรถไฟสายนี้เสมอ และทางรถไฟสายนี้ก็เคยมีอุบัติเหตุให้ถึงแก่ชีวิตบ่อยครั้ง

มีอยู่วันหนึ่ง ตาแกรู้สึกกระวนกระวายใจ เอาแต่บ่นอยู่คนเดียวว่า ‘เดี๋ยวไม่ทันรถไฟเที่ยวบ่าย 3 โมง’ แกบ่นอยู่อย่างนั้นจนยายก็รู้สึกแปลกใจ เพราะปกติก็ไม่ได้เคยจะขึ้นรถไฟไปไหน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร.. จนสักประมาณบ่าย 2 โมงกว่าๆ ตาก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน มุ่งตรงไปรับหลานชายที่ศูนย์ฯ ซึ่งต้องข้ามทางรถไฟ ก่อนไปแกก็บ่นๆ ประโยคเดิมตลอดว่า ‘เดี๋ยวไม่ทันรถไฟเที่ยวบ่าย 3 โมง’ ยายรู้สึกไม่ค่อยดี แต่ก็ห้ามไม่ทัน.. พอไปถึงศูนย์ฯ ตาก็รบเร้าครูผู้ดูแลเด็ก จะพาหลานกลับบ้านให้ได้ โดยบอกกับครูว่า ‘เดี๋ยวไม่ทันรถไฟเที่ยวบ่าย 3 โมง’ ครูห้ามยังไงตาแกก็ไม่ฟัง เพราะยังไม่ถึงเวลาปล่อยเด็กกลับบ้าน จนครูทนเสียงรบเร้าของแกไม่ไหว เลยอนุญาตให้ตาพาหลานกลับบ้านได้

แล้วตาก็ขี่รถพาหลานกลับมาทันรถไฟเที่ยวบ่าย 3 โมงจริงๆ โดยที่ตาแกขี่รถพุ่งตรงเข้าหารถไฟเลย ผู้คนที่กำลังรอข้ามทางรถไฟก็ร้องตะโกนห้าม หลานชายก็ร้องบอกตา ‘รถไฟๆๆๆ’ แต่เหมือนตาแกไม่รับรู้อะไรแล้วครับ ขี่มอเตอร์ไซค์พุ่งชนรถไฟขบวนด่วนพิเศษ เสียชีวิตคาที่อย่างสยดสยองทั้งคู่ ท่ามกลางสายตากลุ่มชาวบ้านแถวนั้น.. โดยชาวบ้านบางคนที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นลุงแกหน้าดำๆ หมองคล้ำ ตาลอยไร้แววตาอย่างผิดปกติ ไม่รับรู้ถึงเสียงตะโกนของชาวบ้านเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะขี่รถพุ่งชนรถไฟเสียชีวิต..

หลังจากเหตุสลดไม่นาน หลานชายคนนั้นก็เฮี้ยนมากครับ ด้วยเหมือนว่ายังไม่ถึงคาด และคงต้องการตัวตายตัวแทน วิญญาณของหลานชายก็หลอกหลอนคนแถวนั้นเป็นว่าเล่น ทั้งยืนร้องไห้อยากกลับบ้านบ้าง หรือที่หนักหน่อยคือ พนักงานรถไฟแทบทุกขบวนเมื่อวิ่งผ่านจุดเกิดเหตุ จะต้องได้เจอวิญญาณของเด็กคนนั้น ทั้งมาเกาะหน้าต่างด้วยใบหน้าอาบเลือดบ้าง วิ่งแข่งกับรถไฟบ้าง ทำเอาพนักงานรถไฟต้องคอยทำบุญให้อยู่เสมอ ทั้งซื้อขนม ของเล่น และเสื้อผ้าให้วิญญาณของหลานชาย

แล้วไม่นานหลังจากนั้นก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกที่เดิม ตายยกครัวเช่นเดิม จนทางการต้องปิดทางข้าม และสร้างสะพานข้ามทางรถไฟที่จุดนั้นแทน ชาวบ้านต่างเชื่อว่าที่ตรงนี้มีวิญญาณตายโหง ที่ต้องการตัวตายตัวแทนอยู่จากรุ่นสู่รุ่นไม่จบไม่สิ้น..

Story by คุณเต้

ความคิดเห็น