เป็นอีกเรื่องจากคุณเลิฟครับ คุณเลิฟเล่าว่า.. ตอนเรียนปี 3 ผมได้ไปฝึกงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง บริษัทนี้เช่าตึกอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ชั้น 21 เปิดเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างครับ ตอนผมไปฝึกงานใหม่ๆ ตึกนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี ยังมีหลายชั้นที่ปิดอยู่ มีการก่อสร้าง เดินสายไฟ ท่อแอร์ ตกแต่งภายใน.. ในตึกนี้จะมีลิฟท์อยู่ 6 ตัว ถ้าเดินเข้าตึกไป จะเห็นลิฟท์ฝั่งซ้ายและขวาฝั่งละ 3 ตัว เป็นลิฟท์แบบไฮสปีด คือมีความเร็วในการขึ้นลงสูงมากเพราะเป็นตึกสูง แล้วที่ลิฟท์ตัวที่ 6 ฝั่งขวามือตัวสุดท้ายนี่เอง เป็นลิฟท์เจ้าปัญหาครับ คือทุกๆ วันศุกร์ เจ้าลิฟท์ตัวนี้จะใช้งานไม่ค่อยได้ บางทีตอนเช้าใช้ได้ บ่ายๆ กลับเสีย หรือไปค้างตามชั้นต่างๆ บ้าง จนเป็นที่ล่ำลือกันว่า วันศุกร์ห้ามขึ้นลิฟท์หมายเลข 6

จนมีวันหนึ่ง ซึ่งตรงกับวันศุกร์พอดี ผมจำได้ว่าพี่ๆ เค้าเงินเดือนออกกัน เลยนัดกันจะไปกินเลี้ยงที่ร้านอาหารใกล้ๆ ตึก พอถึงตอนเลิกงาน ต่างคนก็ต่างทยอยออกจากบริษัท โดยมีผมตามออกไปคนสุดท้าย เพราะเป็นเด็กฝึกงานเลยต้องเครียร์งานที่เหลือ เก็บของ เก็บโต๊ะ.. พอเดินมาทันพวกพี่ๆ ก็คุยกันเพลินๆ ว่าจะกินอะไร จะไปต่อไหนดี จนเดินมาถึงหน้าลิฟท์โดยไม่รู้ตัว ลิฟท์ก็เปิดออกพร้อมกัน 2 ตัวครับ แต่ความซวยของผมเอง ดันพลาดเดินเข้าลิฟท์ไปก่อนใคร ส่วนพี่ๆ เค้าขึ้นลิฟท์อีกตัวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ผมเห็นพี่ๆ เค้าทำหน้าเหวอ พร้อมกับกวักมือเรียกผม ผมก็นึกขึ้นได้ว่า ‘ตายล่ะ! นี่มันลิฟท์หมายเลข 6 นี่หว่า..’ พอจะก้าวออกไปก็สายไปแล้ว ประตูลิฟท์ปิดอย่างไว ผมรีบกดปุ่มเปิดประตูรัวๆ มันก็ไม่ยอมเปิด ช่วยไม่ได้ครับผมก็เลยกดชั้น 1 ไป

เสียงลิฟท์ไฮสปีดเริ่มทำงาน ‘วืดๆๆๆ’ ตัวเลขดิจิตอลสีแดงเหนือหัว บอกสถานะชั้นที่ลิฟท์กำลังเคลื่อนที่ลงอย่างไว 20.. 19.. 18.. จนมันมาหยุดชั้นที่ 15 เสียงในลิฟท์พูดว่า ‘fifteen floor’ พร้อมกับเสียงดัง ‘ติ๊ง..’ ประตูลิฟท์ก็เปิดออก ผมคิดว่าจะมีคนที่ชั้น 15 กดเรียกลิฟท์ ลิฟท์เลยหยุด แต่ที่ไหนได้.. มันเป็นชั้นว่างๆ ครับ ชั้นที่ยังทำไม่เสร็จ แสงไฟจากในลิฟท์ส่องให้เห็นบริเวณ ข้างหน้าได้ไม่ไกลมากนัก มีกองวัสดุ สายไฟ ท่อแอร์ระเกะระกะเต็มไปหมด ที่หน้าต่างยังมีกระดาษปิดเอาไว้ แสงจากภายนอกลอดเข้ามาได้เพียงสลัวๆ ผมใจเต้น ‘ตึกๆๆ’ คิดในใจ ‘ทำไมมันมาหยุดที่ชั้นนี้วะ?’ แล้วก็รีบกดปิดประตูรัวๆๆ แต่ประตูมันก็ไม่ปิด กดปุ่มฉุกเฉินเรียกคนภายนอกก็ไม่มีเสียงตอบกลับ คิดในใจทำไงดีๆ ลิฟท์ค้างเหรอเนี่ย

ผมพยายามทำใจให้เย็นลง กวาดสายตามองไปรอบๆ เผื่อมีประตูหนีไฟ จะได้เปิดเดินลงไป แต่ชั้นนั้นมันมืดมากมองไม่เห็นอะไรเลย.. สักพักหูผมก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังเดินมาที่ลิฟท์ และเสียงวัสดุกระทบกัน เสียงของตกโครมคราม เหมือนคนเดินชน และเสียงนั้นเริ่มเข้ามาใกล้ทุกทีๆ พร้อมกับได้กลิ่นไหม้ๆ เหมือนหมูย่าง ตอนนั้นผมใจไม่ดีเลย เหงื่อแตกเต็มหลัง พยายามกดปุ่มทุกปุ่มที่มี มั่วๆ รัวๆ เพราะความกลัว ผมคิดว่ามันต้องไม่ใช่คนแน่ๆ เพราะผมตะโกนออกไปหลายครั้งว่า ‘ใครครับ ช่างเหรอ?’ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาเลย นอกจากเสียงเดินชนของล้มโครมครามๆ แต่โชคยังเข้าข้างผม ประตูลิฟท์ปิดก่อนที่เสียงประหลาดนั้นจะมาถึงตัวลิฟท์พอดี แล้วลิฟท์ก็ลงไปต่อโดยไม่หยุดที่ชั้นไหนอีกเลย ผมนี่โคตรลุ้นเลยครับ กลัวมันจะไปหยุดอีก..

จนลงมาถึงชั้น 1 ลิฟท์เปิดออก ปรากฏว่าพวกพี่ๆ และยามมายืนรอกันอยู่หน้าลิฟท์เต็มไปหมด ผมนี่หน้าซีดเหมือนลมจะจับ พี่ๆ เลยมาช่วยกันประคอง พอผมอาการดีขึ้น พี่ๆ เค้าบอกว่าลิฟท์ผมค้างอยู่ชั้น 15 เกือบ 10 นาที เลยต้องตามยามมาช่วยกัน แต่ด้วยความที่ลิฟท์มันเปิดที่ชั้น 15 อยู่แล้ว จะให้ตัวอื่นไปที่ชั้น 15 มันก็ไม่ยอมไป แล้วอยู่ๆ ลิฟท์มันก็ลงมาเองนี่ล่ะ.. ผมก็เล่าเหตุการณ์ที่เจอให้ทั้งพี่ๆ และยามฟัง ทีนี้ยามเลยเล่าว่า ‘อย่าไปบอกใครนะ ตอนก่อสร้างตึกนี้ มีคนงานขึ้นไปเชื่อมท่อแอร์แล้วเกิดระเบิดเพราะแก๊สรั่ว จนไฟคลอกตาย แต่ไม่แน่ใจว่าชั้นไหน เจ้าของตึกเค้าปิดข่าวไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร..’ ผมได้ฟังนี่ถึงบางอ้อเลย ผมลองหลับตาจินตนาการตามไปว่า เจ้าเสียงที่ผมได้ยิน กลิ่นไหม้ที่ผมได้กลิ่น อาจจะเป็นช่างคนนั้นที่ถูกไฟคลอกแล้ววิ่งหนีตายจนชนของล้มไปหมด วิญญาณเค้าคงยังไม่ได้ไปผุดไปเกิดก็เป็นได้.. หลังจากวันนั้น ผมไม่เคยเฉียดเข้าไปใกล้ลิฟท์ตัวที่ 6 อีกเลย ปัจจุบันเวลาผ่านไปเกือบ 20 ปี ผมมีเพื่อนที่ยังคงทำงานที่ตึกนั้น มันก็ยังบอกว่า ลิฟท์ตัวที่ 6 ชอบค้างเป็นประจำ แก้ยังไงก็แก้ไม่หาย..

Story by คุณเลิฟ

ความคิดเห็น