เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณแต๊ง (นามสมมติ) ครับ คุณแต๊งเล่าว่า.. เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ที่จังหวัดอุบลราชธานีครับ บ้านผมจะอยู่ตรงข้ามกับบ้านของคุณน้าคนหนึ่ง เป็นเพื่อนบ้านกัน อยู่ตรงข้ามกันเป๊ะเลย แม้กระทั่งประตูหน้าบ้านก็ยังตรงกัน ต้องบอกก่อนว่า ผมกับคุณน้าคนนี้ไม่ค่อยได้คุยกันหรอกนะครับ เพราะน้าแกเป็นคนโลกส่วนตัวสูง เงียบๆ ไม่ค่อยชอบพูดคุยกับใคร แกทำงานเป็นพนักงานขายรถยนต์อยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งครับ.. ช่วงที่ผมเรียนมัธยม ผมจะเจอน้าแกขึ้นรถประจำทางไปทำงานอยู่เสมอ แกเจอผมแกจะไม่พูดอะไร แกจะยิ้มทักทายซะมากกว่า แกมีบุคลิกท่าเดินที่เป็นเอกลักษณ์ คือเดินหลังโก่งๆ ใส่ชุดยูนิฟอร์มบริษัท และเวลากลับจากโรงเรียน ผมก็จะเจอแกประจำบนรถประจำทาง แกจะชอบเหน็บหนังสือพิมพ์ฟุตบอลไว้ที่รักแร้ข้างขวา มือข้างซ้ายจะถือกับข้าว มือขวาจะถือบุหรี่ แกเป็นคนสูบบุหรี่หนักครับ.. หลังจากน้าแกเข้าบ้าน แกจะชอบสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าของแก มันจะสตาร์ทติดยากหน่อย นึกภาพตามนะครับ เสียงง้างคันสตาร์ทออกมา แล้วเริ่มถีบคันสตาร์ท เสียงดัง ‘แค๊ก แค๊ก แค๊ก’ อยู่หลายแค๊ก กว่าจะ ‘บรื้นๆๆ’ แล้วแกก็จะขับรถคันนั้นออกจากบ้านไปซื้อของ เสียงรถแกจะดังไปจนถึงปากซอยเลย.. น้าแกจะทำแบบนี้อยู่ทุกวันจนผมเรียนจบ ม.6

แล้วหลังจากนั้นผมก็ต้องไปเรียนมหาวิทยาลัย เลยไม่ค่อยได้กลับบ้าน และไม่ได้นั่งรถประจำทางเหมือนแต่ก่อน และช่วงที่เกิดเหตุการณ์ เป็นช่วงที่ผมเองเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 ผมจะใช้เวลาอยู่ที่หอพักแถวมหาวิทยาลัยเป็นส่วนใหญ่ นานๆ จะแวะมาทานข้าวกับครอบครัว แล้วผมก็จะกลับหอพักไปทำโปรเจคต่ออะไรแบบนั้น.. มีอยู่วันหนึ่ง ผมนัดกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะไปเที่ยวตั้งแคมป์กันที่ต่างอำเภอ ผมบอกเพื่อนว่า วันพรุ่งนี้ที่จะเดินทางให้มารับผมที่บ้านที เดี๋ยวผมจะกลับไปนอนที่บ้าน.. คืนนั้นที่ผมกลับมานอนบ้าน อากาศจะเริ่มเย็นเป็นพิเศษ เพราะอยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ผมชอบออกมานอนเล่นที่เปลหน้าบ้านประจำ คืนนั้นผมก็ออกมานอนเล่นตามปกติ ก็คุยกับเพื่อนๆ เรื่องไปเที่ยวกันในกลุ่มแชท คุยจนเพลินไปหน่อย พอดูเวลาก็ตี 2 แล้ว แล้วระหว่างนั้น ผมก็ได้ยินเสียงหมาเห่าหอนตั้งแต่ปากซอย ไล่มาเรื่อยๆ จนถึงช่วงหน้าบ้านผมมันก็หยุด ผมก็ไม่สนใจอะไร..

ในขณะที่ผมกำลังจะตอบแชทต่อ หางตาผมก็เหลือบไปเห็นคนเดินผ่านหน้าบ้าน โดยมองเห็นผ่านทางช่องของรั้วบ้านผม ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเลย คือคุณน้าบ้านตรงข้ามนั่นเอง บุคลิคท่าทางการเดินแบบนี้มีคนเดียวเลย ผมก็คิดในใจ ‘น้าแกไปไหนมาดึกๆ ดื่นๆ? ปกติถ้าแกไปไหนเวลานี้ แกต้องขับรถคู่ใจแกไปสิ แต่ทำไมวันนี้กลับเดิน..’ พอสิ้นสุดความคิดผมเท่านั้นล่ะ น้าแกหันมาแล้วก็ยิ้มให้ผม แต่มันกลับทำให้ผมขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ผมก็แปลกใจ ว่าทำไมมันถึงรู้สึกแปลกๆ แต่ผมก็โทษอากาศที่มันเริ่มหนาว แล้วจากนั้นผมก็เข้าบ้านนอน โดยไม่ได้สนใจอะไร..

พอวันรุ่งขึ้น ก่อนที่ผมจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แม่ก็ถามผมว่า ‘จะไปกี่วัน? แล้วกลับวันไหน?’ ผมบอกแม่ว่าไป 2-3 วันก็กลับแล้ว แม่ก็ตอบมาด้วยสีหน้าเศร้าๆ ว่า ‘แกคงจะกลับมาทันเผาน้าบ้านตรงข้ามนะ?’ ผมก็ถามแม่กลับว่าน้าคนไหน? แม่ก็บอกว่า ‘ก็น้าคนที่ทำงานเป็นเซลส์ขายรถไง แกเสียเมื่อวาน..’ ผมรีบตอบแม่ไปทันทีว่า แม่อย่ามามั่วเลย อำผมใช่ไหม? แล้วผมก็เล่าเหตุการณ์ที่เจอเมื่อคืนที่เปลหน้าบ้านในแม่ฟัง แม่ก็ทำหน้าแปลกๆ ใส่ผม และบอกว่าสงสัยผมจะเจอดีแล้วล่ะ แม่เล่าว่า ‘น้าเขาผ่าตัดเกี่ยวกับโรคปอดติดเชื้อ อยู่โรงพยาบาลมาเกือบ 2 เดือน แล้วเมื่อคืนนี้แกก็เสียที่โรงพยาบาลตอนประมาณ 3 ทุ่ม..’ ผมได้ยินอย่างนั้นถึงกับขาอ่อน หัวใจเต้นเร็ว และขนหัวลุกพร้อมๆ กันเลย คือทำอะไรไม่ถูก ผมโทรยกเลิกการไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แล้วอยู่บ้าน พอตกเย็น ผมก็ไปช่วยงานศพน้าแกที่วัดครับ

แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้นสิครับ หลังจากกลับจากวัดคืนที่ 3 คืนนั้นผมไม่กล้าไปนอนที่เปลหน้าบ้านแล้ว ผมนอนอยู่ที่ห้องรับแขกดูทีวีไปเรื่อย ผมดูจนเผลอหลับไป จนเวลาประมาณตี 3 ผมต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเลื่อนประตูเหล็ก ดังจากบ้านคุณน้าฝั่งตรงข้าม ได้ยินชัดๆ ทั้งตอนที่เลื่อนเปิด และเลื่อนปิดเลย หลังจากนั้นผมก็เริ่มได้ยินเสียงสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์! ผมบอกได้เลยว่า บ้านน้าแกไม่มีใครไปยุ่งกับรถแกแน่ๆ เพราะน้าแกหวงของมากครับ ผมก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถอยู่นานมาก อารมณ์นั้นมันช่างเย็นยะเยือก บวกกับอากาศที่หนาวอยู่แล้ว มันวังเวงเหลือเกิน ผมนั่งตัวแข็งฟังเสียงนั้นไปเรื่อย โดยที่ไม่กล้าจะลุกไปมองจริงๆ ครับ จนผมได้ยินเสียงไอ ‘แค่กๆ’ ของคน พร้อมกับเสียงรถที่สตาร์ทติด ตามด้วยเสียงบิดรถมอเตอร์ไซค์ของน้าแกออกจากหน้าบ้านไปยังปากซอย.. เชื่อไหมครับ หมาทั้งซอยนี่หอนกันระงมจนถึงปากซอยเลยครับ!

ตื่นเช้ามา ผมเล่าเรื่องนี้ให้ทุกคนในบ้านฟัง ทุกคนต่างมองหน้ากัน แล้วพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ‘ได้ยินเหมือนกันเลย..’ วันนั้น พวกผมทั้งบ้านก็ออกไปช่วยงานศพที่วัดตามปกติ ก็ได้เจอแม่ของคุณน้า เขาก็มาเล่าให้แม่ผมฟังว่า ‘เมื่อคืนฉันฝันว่าลูกชายกลับมาบ้าน มาสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ แล้วก็บอกฉันว่า ผมไปแล้วนะครับ..’ พวกผมทั้งบ้านได้ฟังก็ขนลุกกันเกลียวเลยสิครับ แต่ยังไงก็ขอให้คุณน้าแกไปสู่สุขคติแล้วกันครับ

Story by คุณแต๊ง (นามสมมติ)

ความคิดเห็น