เรื่องนี้เป็นเรื่องจากคุณน้ำฝน ครับ คุณน้ำฝนเล่าว่า.. เราเป็นคนมีสัมผัสที่ 6 มาตั้งแต่เกิดค่ะ เราไม่รู้ตัวหรอกนะคะ แต่เพราะผู้ใหญ่หลายๆ คนหรือแม้แต่พระก็มักจะทักเราเสมอ แม่บอกว่าที่เราเป็นแบบนี้ เพราะเราเป็นลูกของหลวงปู่.. คือสมัยตอนที่แม่ท้องเรา แม่ป่วยหนักมาก หมอบอกแม่ว่าให้เอาเราออกเถอะ เพราะเราคงจะไม่รอดแน่ๆ ถ้าไม่เสียชีวิตในท้อง ก็จะออกมาพิการทางสมอง หรือไม่ครบ 32 แบบคนอื่นเขา แต่ว่าพ่อเราไม่ยอมค่ะ พ่อเราเลยไปบนไว้หลายวัดมาก แทบจะทั่วประเทศที่เขาว่าดี ว่าจะยกเราให้หลวงปู่ทุกองค์ สุดท้ายเราก็ได้เกิดมา.. ตั้งแต่จำความได้ พ่อจะให้เราใส่สร้อยพระตลอดเวลา ห้ามถอดเด็ดขาด แม้เวลาอาบน้ำก็ห้ามถอด เราก็ไม่ได้อะไรตอนนั้นยังเด็ก ก็ทำตามมาตลอด.. จนเวลาผ่านไป เราโตขึ้นมาอายุสัก 8 ขวบ ก็มีเหตุการณ์เฉียดตายมากๆ ครั้งหนึ่งที่เราจำมาจนถึงทุกวันนี้..

วันนั้นเป็นวันรวมญาติกันไปเที่ยวน้ำตกกัน จำไม่ได้แล้วนะคะว่าที่น้ำตกไหน ไปกันเยอะมาก แล้วตอนนั้นเราจะสนิทกับพี่ผู้หญิงคนนึงอายุประมาณ 15 ปี ชื่อพี่เฟีย พอไปที่น้ำตก พวกผู้ใหญ่ก็บอกเด็กๆ ว่าให้เล่นน้ำกันระวังๆ นะ อย่าไปเล่นคนเดียว ซึ่งเราก็เชื่อนะ เลยไปเล่นกับพี่เฟีย และเด็กคนอื่นๆ อีก 5-6 คน.. ก่อนเราไปเล่นน้ำพวกญาติๆ ผู้ใหญ่ก็บอกให้เราถอดสร้อยพระออกก่อน เพราะเป็นสร้อยทองแท้เดี๋ยวจะทำหาย คือตอนนั้นพ่อแม่เราขับรถมาอีกคัน ซึ่งยังมาไม่ถึง ไอ้เราก็ทำตาม ถอดสร้อยออกเก็บไว้กับญาติแล้วไปเล่นน้ำค่ะ

ตรงน้ำตกที่เล่นลักษณะมันจะเป็นแบบหลุมๆ บ่อๆ เราจะไม่สามารถรู้เลยว่ามันลึกแค่ไหน ถ้าไม่ลงไป.. เราเล่นไปสักพักก็หิว เลยเดินกลับมานั่งกินข้าว กินไปนิดๆ หน่อยๆ ก็วิ่งไปเล่นน้ำต่อตามประสาเด็ก พอกลับไป เราก็เจอพี่เฟียกวักมือเรียกเรา แต่อยู่ในอีกบ่อหนึ่งที่ไม่ใช่บ่อเดิมตอนแรก เราก็ถามไปว่า ‘ทำไมเหลือพี่เฟียคนเดียว แล้วคนอื่นไปไหนกันหมด?’ แต่พี่เฟียคงไม่ได้ยินเลยไม่ได้ตอบอะไร เอาแต่กวักมืออยู่อย่างนั้น เราก็วิ่งเลยค่ะ แล้วกระโดดลงบ่อประมาณว่าจะให้พี่เฟียรับ แต่พอเราโดดลงไปกลับไม่มีใครอยู่ในบ่อเลย แล้วน้ำในบ่อนั้นลึกมากๆ มิดหัวค่ะ ต้องบอกก่อนว่าเราว่ายน้ำเป็นนะ ว่ายเก่งด้วย เป็นนักกีฬาโรงเรียนเลย แต่ตอนนั้นเราเย็นแข็งไปหมดทั้งตัว พยายามว่ายขึ้นไปเหนือน้ำ แต่ยังไงก็ขึ้นไม่ได้จนแขนขาชาไปหมด จมลงเรื่อยๆ เราคิดในใจเลยว่า ‘นี่เราจะตายหรอ? ใครก็ได้ช่วยหนูที ใครก็ได้..หนูไม่อยากตาย’ ..แล้วอยู่ๆ ก็มีคนกระโดดลงมาในน้ำแล้วคว้าตัวเราขึ้น เขากอดเราแล้วอุ้มขึ้นมาจากบ่อ แต่ตอนนั้นเราจำหน้าเขาไม่ได้เลย รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย น่าจะอายุ 20 กว่าๆ แล้วพี่เขาก็พูดกับเราว่า ‘ทำไมมาเล่นตรงนี้ รู้ไหมว่าน้ำมันลึก กระโดดลงไปทำไม? กลับไปหาพ่อแม่แล้วเอาสร้อยพระมาใส่ด้วย แล้วห้ามถอดออกอีกเด็ดขาด!’ เขาดุมากเลย ดุจนเรากลัว พี่เขาเห็นเราเงียบ เขาเลยถามเราว่า ‘เข้าใจที่บอกไหม?’ เราก็พยักหน้า แล้วเขาก็ลูบหัวเราพร้อมบอกว่า ‘เกิดมาก็ยากแล้ว อย่าดื้อให้มันมากนักรู้ไหม? พี่คงช่วยไม่ได้ตลอดหรอกนะ ไปได้แล้วกลับไปหาพ่อหาแม่..’

เราเลยวิ่งกลับมา แล้วเราก็เจอพี่เฟีย กับเด็กคนอื่นๆ นั่งกินข้าวกันอยู่ เราเลยโวยวายถามว่า ‘พี่เฟียทำไมเรียกหนูลงไปเล่นน้ำแล้วหนีหนูล่ะ?’ พี่เฟียก็ทำหน้างง แล้วบอกเราว่า ‘ป่าวนะพี่ไม่ได้เรียก พี่อยู่นี่ตั้งนานแล้ว.. หนูล่ะหายไปไหนมา?’ เราแบบงงมาก พอดีพ่อแม่มาถึงแล้ว เลยเดินไปเล่าให้พ่อแม่ฟัง พ่อเราตกใจ และโมโหมาก โวยวายกับเราใหญ่ว่าทำไมถึงถอดสร้อยออก พอพ่อเราโวยวายเสร็จ พ่อก็ถอดสร้อยของพ่อมาใส่ให้เรา แล้วเดินไปหาญาติเอาสร้อยเราคืน แล้วพ่อก็ไม่ให้เราไปเล่นน้ำอีก.. พอทุกอย่างโอเคแล้ว เราเลยบอกพ่อว่า ‘หนูยังไม่ได้ขอบคุณพี่คนที่ช่วยหนูเลย พ่อพาไปหาพี่เขาหน่อยสิ..’ พ่อเรากลับบอกว่า ‘ไม่ต้องไปหาหรอกเสียเวลา..’ ตอนนั้นเราก็แบบ อ้าวทำไมล่ะ? เขาช่วยเราทำไมพ่อไม่ขอบคุณ เราเลยชวนพี่เฟียไปเดินหาพี่คนนั้น ซึ่งเดินหาจนทั่วยังไงก็หาไม่เจอ เราเลยไปถามกลุ่มวัยรุ่นแถวๆ บ่อนั้น เขาก็บอกว่า ‘ในกลุ่มพี่ไม่มีใครไปช่วยหนู แต่แค่เห็นหนูจดๆจ้องๆ แล้วกระโดดลงไป พวกพี่ตกใจมากเพราะบ่อนั้นมันลึกมากจริงๆ มิดหัวพี่เลย พอหนูโดดลงไป พวกพี่ก็รีบขึ้นมาจากบ่อตรงที่พวกพี่เล่นมาดูหนู แต่อยู่ๆ หนูก็ปีนขึ้นมาเอง พยักหน้าหงึกๆ แล้วก็วิ่งไป..’

เราแบบงงมาก เลยกลับไปเล่าให้พ่อฟังอีกที พ่อเลยบอกว่า ‘ไม่ต้องไปตามหาพี่เขาหรอก แค่ตั้งใจ ตั้งจิตขอบคุณพี่เขาก็พอ..’ ผ่านมาจนโตเราเลยเข้าใจว่า ทำไมพ่อถึงพูดแบบนั้น สุดท้ายไม่ว่าพี่เขาจะเป็นใคร ก็ขอขอบคุณพี่มากนะคะ ที่ช่วยหนูไว้ในวันนั้น..

Story by คุณน้ำฝน

ความคิดเห็น