เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณดาวครับ คุณดาวเล่าว่า.. เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว เราทำงานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์ (Museum of Human Body) ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งค่ะ ห้องจัดแสดงร่างกายจะอยู่ชั้น 9 โดยที่ทั้งชั้นจะมีแค่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้นที่เปิดใช้งาน ทั้งที่ชั้นนี้ก็มีห้องเรียนอยู่อีกหลายห้อง แต่ไม่มีใครมาใช้เลย เรียกว่าแทบจะไม่มีคนขึ้นมาเลย นอกจากลูกค้าที่มาดูพิพิธภัณฑ์ ส่วนแม่บ้านก็จะขึ้นมาเฉพาะตอนเช้าเท่านั้น หรือนานๆ ทีแม่บ้านก็จะขึ้นมานั่งคุยเล่นด้วย.. บริษัทที่เราทำงานนี้ เป็นตัวแทนมาจัดการเรื่องขายตั๋วเข้าชม และดูแลพิพิธภัณฑ์ พนักงานมีแค่ 3 คน เราเป็นพนักงานประจำ และมีน้องพาร์ทไทม์อีก 2 คน

วันแรกที่ไปทำงาน เราตกใจมากกับร่างของอาจารย์ใหญ่ น่ากลัวมากๆ เรามีหน้าที่ทำทุกอย่าง ทั้งงานเอกสาร รวมถึงทำความสะอาดชิ้นส่วนร่างกายของอาจารย์ใหญ่ทั้งหลาย และห้องจัดแสดงให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย จริงๆ เราเป็นคนที่ไม่ค่อยกลัวผีเท่าไหร่นะ เลยพอทำใจได้บ้าง.. ช่วงเดือนแรกนี่ไม่มีอะไรค่ะ ไม่น่ากลัว เพราะน้องๆ มาทำงานทุกวัน แต่พอเข้าเดือนที่ 2 น้องๆ จะมากันได้แค่วันเสาร์ – อาทิตย์ เพราะโรงเรียนเปิดเทอม ดังนั้นวันจันทร์ – ศุกร์เราเลยต้องอยู่คนเดียวแต่เช้าถึง 6 โมงเย็น.. นึกดูสิคะว่าบรรยากาศมันจะวังเวงขนาดไหน แล้วเรื่องขนหัวลุกก็เริ่มเกิดขึ้นตอนเดือนที่ 2 นี่ล่ะค่ะ

วันหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเสาร์หรืออาทิตย์ เรานั่งที่โต๊ะขายตั๋วกันอยู่ 3 คน โต๊ะขายตั๋วจะอยู่หน้าลิฟท์เลยค่ะ แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงคนบีบขวดน้ำพลาสติกแบบติดๆ กัน 4-5 ที น้องที่ทำงานก็ถามว่า ‘พี่ได้ยินไหม?’ เรา 3 คนมองหน้ากัน และพูดพร้อมกันว่า ‘ได้ยิน’ น้องคนหนึ่งเลยลุกไปดูตรงที่เราวางกองขวดเปล่าไว้ ซึ่งตรงนั้นไม่มีใครอยู่เลย และก็ไม่มีขวดใบไหนถูกบีบสักขวด น้องคนนั้นรีบวิ่งกลับมานั่งข้างๆ แล้วบอกว่า ‘สงสัยพวกเราจะหูฝาดไปเองเนอะพี่..’ เราก็เออออไป ทั้งที่เราได้ยินแบบชัดมากๆ ไม่ได้คิดไปเองแน่นอน.. แล้วหลังจากนั้นก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นเรื่อยๆ เช่น ประตูห้องจัดแสดงมักจะเปิด และปิดเองตลอด หรือจะชอบได้ยินเสียงเหมือนมีคนกดเปิด-ปิดสวิทช์ไฟ แม้จะพากันเดินหาต้นตอของเสียง แต่ก็ไม่เคยหาเจอ.. หรือแม้กระทั่งลิฟท์ปริศนา ที่ชอบขึ้นมาเปิดที่ชั้น 9 เหมือนมีคนกดขึ้นมา แต่ในลิฟท์กลับไม่มีใครอยู่..

พวกเราก็คิดในแง่วิทยาศาสตร์กันไปให้ตัวเองไม่กลัว.. แล้ววันหนึ่ง เรากับน้องอีกคนได้เข้าไปทำความสะอาดห้องจัดแสดง ระหว่างที่กวาดพื้นอยู่ เรารู้สึกว่าร่างของอาจารย์ใหญ่มันดูแปลกๆ ไม่เหมือนเดิม เลยให้น้องไปเอารูปถ่ายที่เราถ่ายไว้ก่อนเปิดรอบจัดแสดงมาเช็คดู ว่าร่างและชิ้นส่วนอยู่ครบไหม เผื่อว่าลูกค้าแอบหยิบหรือขยับเล่นจนเสียหาย พอน้องเอารูปมาเทียบดู ปรากฏว่าร่างของอาจารย์ใหญ่ 2 ท่าน หมุนกลับหลัง! ทีแรกเราคิดว่าอาจจะมีลูกค้าแอบมายืนดู และหมุนเล่น เราเลยเรียกน้องให้มาช่วยหมุนกลับคืนที่เดิม ซึ่งตอนหมุนกลับมันหมุนยากมาก ทั้งหนักทั้งฝืดและจะล้ม ต้องให้น้องช่วยจับร่างไว้แล้วเราหมุนทีละนิด.. เราสงสัยมากว่าทำไมร่างถึงหมุนกลับหลังได้ขนาดนั้น ถ้าลูกค้าแอบหมุนเล่น ก็ไม่น่าจะหมุนได้ขนาดนี้ และอีกอย่าง เราเดินตรวจทุกครั้งก่อนที่จะเปิดบริการทุกวัน.. และครั้งนั้นคือครั้งแรกที่เริ่มกลัวมากๆ เลยล่ะค่ะ

แล้วต่อมาไม่นาน น้องคนหนึ่งก็ได้เจอแบบยืนให้เห็นๆ เลย คือน้องคนนี้เกิดง่วงนอน เราก็เลยบอกให้น้องแอบไปงีบในห้องออฟฟิศ เพราะจะได้ไม่ดูน่าเกลียดถ้ามีลูกค้ามาเห็น.. น้องเข้าไปนอนได้ประมาณ 10 นาที เราก็ได้ยินเสียงร้อง ‘กรี๊ด’ ดังมากๆ แล้วน้องก็วิ่งออกมา เราก็ถามว่าเป็นอะไร ร้องทำไม? น้องก็เงียบไม่ตอบอะไร บอกแค่ว่า ‘เดี๋ยวหนูมานะ ลงไปทำธุระข้างล่างแป๊บหนึ่ง..’ แล้วก็เดินลงไปเลย.. ผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง น้องก็กลับขึ้นมา เราด้วยความคาใจก็ถามเลย ‘เมื่อกี้น้องเป็นอะไร? ไหนเล่าให้ฟังหน่อย..’ น้องบอก ‘หนูไม่อยากเล่าอะพี่ เดี๋ยวพี่จะกลัว’ แต่เราไม่ยอม คะยั้นคะยอจนน้องเล่าให้ฟังว่า ‘ตอนเข้าไปในห้องจะนอน หนูเอาเก้าอี้มาต่อกันแล้วนอน ตอนกำลังเคลิ้มๆ จะหลับ พลิกเปลี่ยนท่าหันหน้าไปทางใต้โต๊ะทำงาน หนูเห็นขาของอาจารย์ใหญ่ยืนอยู่อีกฟากของโต๊ะ! หนูตกใจมากเลยร้องกรี๊ด แล้วรีบวิ่งออกมา ไม่กล้าหันไปมองด้านบนโต๊ะ เพราะหนูกลัวจะเห็นหน้าเขา!’ เราได้ฟังนี่ขนลุกซู่เลยค่ะ..

ยังไม่หมดนะคะ มีครั้งหนึ่งป้าแม่บ้านที่ชอบมานั่งคุยด้วย พอแกได้ฟังเรื่องที่น้องเจอ แกเล่าให้ฟังบ้างว่า.. ‘แต่ก่อนก็มีแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดนะ แต่เค้าเจอหลอกกันทั่วเลยกลัว ไม่มีใครกล้าเข้าไปทำความสะอาดเลย จะไปทีก็ต้องเข้าไปกันหลายๆ คน.. ป้าเองก็เคยเจอ ไม่นานนี้เอง ประมาณ 7 โมงเช้า ป้าขึ้นมากวาดพื้นหน้าลิฟท์ ก็เห็นมีคนเดินผ่านทางเดินเข้าไปที่ห้องจัดแสดง ป้าก็นึกว่าหนูมาทำงานแล้ว เลยเดินตามไปจะคุยด้วย แต่พอเดินตามมากลับไม่มีใคร แถมห้องจัดแสดงยังปิดล็อคอยู่เลย เหมือนเขาเดินทะลุเข้าไปยังไงยังงั้นเลย ป้านี่วิ่งกลับเข้าลิฟท์แทบไม่ทัน..’ สุดท้ายเราก็ทำงานจนครบ 1 ปี เพราะบริษัทที่เราทำด้วยเค้าหมดสัญญากับทางพิพิธภัณฑ์พอดี ..ใครอยากไปเที่ยวชมลองแวะไปดูได้นะคะ..

Story by คุณดาว

ความคิดเห็น