เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณญาครับ คุณญาเล่าว่า.. ย้อนกลับไปหลายปี ตอนนั้นเราเป็นนักศึกษาค่ะ พี่ชายเราเป็นหมอทหารอยู่ที่ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในค่ายทหารนั้นจะมีแฟลตนายทหารอยู่ คนที่เคยอยู่แฟลตนายทหารจะรู้ดี ว่าส่วนใหญ่ห้องจะว่าง นายทหารที่มีครอบครัวก็เลือกที่จะอยู่บ้านพักกันมากกว่า ทำให้แฟลตนายทหารจะเงียบมากๆ.. ครั้งหนึ่งเราเองก็เคยได้ไปพักอยู่แฟลตนายทหารที่จังหวัดเพชรบูรณ์มา ชั้น 1 มี 10 ห้อง อยู่กันจริงๆ แค่ 4 ห้องได้ ไฟในชั้นก็ไม่ค่อยจะติด ยิ่งชั้น 3 ชั้น 4 นี่ไม่ต้องพูดถึง ไม่มีคนอยู่เลยค่ะ

แต่แฟลตนายทหารของพี่ชายที่ปาย เราเพิ่งได้ไปเป็นครั้งแรกค่ะ ช่วงวันหยุดพี่ชายกลับบ้านมา และขากลับก็พาเราไปด้วย เพราะตอนนั้นเราอยากไปเที่ยวปายค่ะ.. พอไปถึง ถ้าจำไม่ผิดห้องจะอยู่ชั้น 2 สภาพคือเลวร้ายกว่าที่คิดไว้มาก ลูกบิดประตูเป็นสนิมเขรอะ เปิดประตูเข้าไป พื้นห้องเต็มไปด้วยฝุ่น เพดานมีแต่หยากไย่ ห้องน้ำเกรอะกรังด้วยสนิมสีแดงเข้ม เปิดน้ำมาพื้นก็กระจายเป็นวงขาวๆ อารมณ์เหมือนอยู่บ้านร้างในหนังเลยค่ะ เรากับพี่ชายที่เหนื่อยจาการเดินทางมามาก ก็เลยไม่ได้อะไรเท่าไหร่ อยากพักผ่อนมากกว่า.. ในห้องจะมีเตียงขนาด 3.5 ฟุต เตียงเดียว นอน 2 คนไม่ได้ พี่ชายเราเลยปูผ้านอนพื้น ส่วนเราก็นอนเตียง บนหัวเตียงจะมีกล่องพระตั้งอยู่ ก่อนนอนเราก็ไม่ลืมสวดมนต์กราบหมอนตามปกติ พอกำลังเคลิ้มๆ จะหลับ ปิดไฟหมดแล้ว จำได้เลย เรานอนตะแคงขวาอยู่ ส่วนพี่ชายเราก็นอนที่พื้นด้านที่เราหันไปนี่แหละค่ะ

แล้วสักพัก อยู่ๆ เตียงมันก็ยวบลง และเราก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างมาสัมผัสที่ด้านหลังเราค่ะ มันเหมือนมีคนมานั่งบนเตียง แล้วเอาหลังพิงตรงสะโพกเรา คือเรารู้สึกได้ชัดเจนมาก ถึงขนาดรู้ว่าเนื้อผ้าที่โดนตัวเราน่าจะเป็นผ้าซิ่น.. เค้ามานั่งพิงเราลักษณะหันหน้าไปทางซ้าย ซึ่งเรานอนตะแคงหันไปทางขวา ตอนนั้นเรากลัวมากๆ อย่างแรกที่เราทำคือลืมตาขึ้นมามองพี่ชาย และพยายามร้องเรียกพี่ที่นอนอยู่ที่พื้นตรงหน้าเราแค่เอื้อมค่ะ แต่มันร้องไม่ออก คือมัน ‘อ่อกๆ แอ่กๆ’ ในปาก ไม่มีเสียงออกมาเลย ขยับตัวก็ไม่ได้ ซึ่งชัดเจนเลยว่าโดนผีอำแน่นอน เราเลยตั้งใจสวดมนต์ สวดไปด้วยความกลัว เค้าก็ยังนั่งอยู่เหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือสัมผัสของเส้นผมยาวๆ บนแขนของเราค่ะ! เราก็ยิ่งสวดๆๆ สวดมั่วไปหมด สวดไปสักพัก จนเราเองเริ่มหงุดหงิด คือสวดนานแล้วก็ไม่ไปสักที กลัวก็กลัว เลยพูดในใจว่า ‘เดี๋ยวจะถวายสังฆทานไปให้ เดี๋ยวจะถวายสังฆทานไปให้..’ พูดซ้ำ 2 ครั้ง พอพูดจบ ทุกอย่างมันเหมือนหายวูบไปหมด เบาไปหมดเลยค่ะ เรารีบพุ่งตัวลงกับพื้น ไปนอนข้างพี่ชาย และก็ปลุกพี่ชายเพื่อเล่าให้ฟัง แต่พี่เราก็บอกว่าไม่มีอะไรหรอก คงเป็นผีบ้านผีเรือน.. คืนนั้นเราต้องนอนคลุมโปงทั้งคืนเลยค่ะ

พอตอนเช้า พี่ชายก็พาเราไปถวายสังฆทาน จากนั้นเราก็ไม่เจออะไรแล้วค่ะ แต่เราก็ต้องอยู่ห้องนี้ต่ออีก 10 วัน ช่วงกลางวันที่พี่เราออกไปทำงาน เราอยู่คนเดียว ก็กลัวๆ เหมือนกันค่ะ.. เรามาคิดดูว่าที่เราเจอ อาจจะเป็นเพราะพี่ชายเราไม่ได้อยู่ที่ห้องนาน ผีบ้านผีเรือนเค้าคงมารอคอยส่วนบุญค่ะ.. ยังไงเวลาทำบุญ ก็อย่าลืมอุทิศส่วนบุญให้กับผีบ้านผีเรือนบ้างนะคะ เค้าอาจจะกำลังรออยู่ก็เป็นได้..

Story by คุณญา

ความคิดเห็น