เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณมง (นามสมมติ) ครับ คุณมงเล่าว่า.. เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ช่วงนั้นตรงกับช่วงแข่งกีฬาสี พวกหลีดก็จะอยู่ซ้อมกันจนมืดทุกวันครับ ตัวผมเองเป็นมือกลอง เลยจำเป็นต้องอยู่ซ้อมด้วย ในกลุ่มก็จะมีเด็กหลายๆ รุ่นปะปนกันไป พอช่วงพักฟ้าเริ่มจะมืด พวกรุ่นพี่ก็จะชอบพาน้องๆ มาจับกลุ่มเล่าประสบการณ์สยองในโรงเรียนให้ฟังกันครับ มีรุ่นพี่คนหนึ่ง แกเล่าเรื่องผีห้องนาฏศิลป์ครับ ก่อนอื่นผมขออธิบายตำแหน่งของห้องก่อนนะครับ คือห้องนาฏศิลป์เนี่ย จะตั้งอยู่ในตึก 2 ชั้น ซึ่งตึกนี้จะมีลักษณะเป็นตึกล้อมรอบ 4 ด้าน ตรงกลางจะเป็นสนามปูน กับสวนหย่อมขนาดเล็กครับ มีทางเข้าออก 4 ทิศทาง..

รุ่นพี่เขาเล่าว่า ‘มีคุณครูท่านหนึ่งต้องอยู่นั่งเคลียร์งานจนค่ำ ห้องของครูท่านนี้จะอยู่ติดกับห้องนาฏศิลป์ครับ เวลาตอนนั้นน่าจะประมาณเกือบๆ 3 ทุ่ม บนตึกไม่มีใครอยู่แล้ว บรรยากาศเงียบมากๆ ไม่มีแม้แต่เสียงแมลง เสียงลม หรือใบไม้เลย ครูเล่าว่า ระหว่างนั่งทำงานอยู่ ก็มักจะมองเห็นเหมือนมีอะไรไหวๆ อยู่ที่หางตา แต่พอหันไปก็ไม่เจออะไร และบางทีจะได้ยินเสียงขิมดัง แตร๊ง.. แว่วมาเบาๆ เหมือนใช้มือสัมผัส.. จนบ่อยครั้งเข้า ครูจึงเก็บของเดินออกจากห้อง ตรงไปที่ทางออกของตึก ซึ่งทางออกของตึกจะถูกปิดหมด เหลือเพียงประตูหน้าประตูเดียว ตอนครูกำลังเดินออกไป ครูได้ยินเสียงเท้าคนเดินตามหลังมาด้วย ด้วยความกลัว ครูจึงรีบเดินให้เร็วที่สุดไม่เหลียวหลังดู พอไปถึงประตูทางออก ครูก็หันกลับไปดูด้วยความสงสัย และสิ่งที่เห็น คือเงาผู้หญิงในชุดขาว ผมยาวปกหน้า ยืนอยู่ไกลๆ ก่อนจะหายไปกับความมืด! ครูเห็นอย่างนั้นก็ร้องกรี๊ดลั่นตึก จนยามต้องรีบวิ่งมาช่วย.. หลังจากนั้นครูท่านนั้นก็ขอย้ายห้องทำงานทันทีเลย..’

เรื่องที่รุ่นพี่เล่าทำเอาเด็กทุกคนกลัวกันหมด โดยเฉพาะพวกมือกลองอย่างผม เพราะพวกผมต้องเอากลองไปเก็บที่ห้องเก็บเครื่องดนตรี ซึ่งอยู่ติดกับห้องนาฏศิลป์ ผมนั่งคิดถึงแต่เรื่องเล่าอยู่ตลอดเวลาเลยครับ จนถึงเวลาเลิกซ้อม ซึ่งวันนั้นเลิกค่อยข้างดึก ประมาณสามทุ่มได้ครับ พวกผมรีบขนกลองเพื่อจะไปเก็บ ไปกันประมาณ 5-6 คน พอเดินไปถึงหน้าตึก เรื่องที่รุ่นพี่เล่าก็แว่บเข้ามาในหัวอีกครั้ง แต่ผมก็พยายามข่มใจว่าคงไม่มีอะไรหรอก พวกผมก็เดินขึ้นตึกกันไป ในตึกมืดมากๆ ครับมองไม่เห็นอะไรเลย ผมถึงขั้นต้องใช้ไฟจากมือถือส่องนำทาง พอไปถึงที่ก็รีบเก็บของกันครับ แต่ไม่รู้ทำไม มันเหมือนมีอะไรดลใจให้ผมหันไปมองตรงช่องลมระหว่างตึก พอผมหันไป สิ่งที่เห็นคือผู้หญิงชุดขาว ก้มหน้าผมยาวรุงรังปิดหน้า! ผมรีบหันกลับมาแล้วตั้งสติ และบอกพวกเพื่อนๆ มือกลองให้รีบวิ่งอย่างด่วน!

ตอนนั้นพวกผมวิ่งหน้าตั้งกันออกมาสุดชีวิตเลยครับ ผมจำได้ว่าผมน่าจะอยู่คนรองสุดท้าย เพราะมีเสียงเพื่อนอีกคนวิ่งอยู่ข้างหลังผม และด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมตัดสินใจหันหลังกลับไปส่องไฟดู เท่านั้นล่ะครับ ผมถึงได้รู้ว่าผมเนี่ยแหละอยู่คนสุดท้าย! เพราะสิ่งที่เห็นมันไม่ใช่เพื่อนผมวิ่งตามมา แต่กลับเป็นผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ในท่าก้มตัว และกำลังวิ่งเข้ามาหาผม!! จังหวะนั้นผมสติแตกล้มทรุดลงไปกองกับพื้นเลยครับ จนมีรุ่นพี่วิ่งกลับมาช่วยหิ้วปีกผมออกไป.. พอไปถึงที่หน้าโรงเรียน ผมไม่พูดกับใครเลยครับ นั่งวินมอเตอร์ไซค์กลับบ้านทันที.. รุ่งเช้าผมไปเล่าให้ทุกคนที่ไปเก็บกลองฟัง ปรากฏว่าเมื่อคืนทุกคนก็เห็นเหมือนกันหมดครับ แต่เลือกที่จะเงียบไว้ พวกผมเล่ากันไปก็ขนลุกกันไป.. เขาว่ากันว่า เป็นผีเจ้าที่ของที่นี่ครับ และหลังจากวันนั้น พวกผมก็จุดธูปไหว้ บูชา ศาลในโรงเรียนตลอดไม่ขาด จากนั้นมาผมก็ยังไม่เคยเจออะไรอีกเลยครับ..

Story by คุณมง (นามสมมติ)

ความคิดเห็น